ในอาระเบียช่วงต้นศตวรรษที่ 20 เกิดสงครามระหว่างสองเผ่าใหญ่ คือ เผ่าฮอไบกา นำโดยเนซิบ และเผ่าซัลมาห์ นำโดยอามาร์ หลังจากที่เนซิบได้รับชัยชนะ เขาได้ยื่นข้อเสนอสันติภาพแก่อามาร์ โดยมีเงื่อนไขให้พื้นที่ "เยลโลว์ เบลท์" เป็นดินแดนที่เป็นกลาง ห้ามมิให้ฝ่ายใดเข้าครอบครอง นอกจากนี้ อามาร์ต้องส่งบุตรชายทั้งสองคน คือ ซาลีห์และอูดา มาอยู่ภายใต้การดูแลของเนซิบ เพื่อเป็นหลักประกัน
ในการรักษาสัญญาสงบศึก หลายปีต่อมา มีการค้นพบแหล่งน้ำมันขนาดใหญ่ในเยลโลว์ เบลท์ ทำให้เนซิบเริ่มวางแผนที่จะแสวงหาความมั่งคั่งจากทรัพยากรดังกล่าว เมื่อซาลีห์พยายามหลบหนีกลับไปยังดินแดนของตนเอง เขากลับถูกสังหาร ทำให้ภาระอันหนักอึ้งตกอยู่กับอูดา ผู้กลายเป็นความหวังเดียวในการรักษาสันติภาพ อูดาถูกจับให้เข้าพิธีแต่งงานกับเจ้าหญิงเลย์ลา ธิดาของเนซิบ เพื่อเป็นการ
กระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองเผ่า หลังจากนั้น เนซิบได้ส่งอูดาไปยังซัลมาห์ในฐานะทูตสันติภาพ ในช่วงเวลานี้ อูดาได้เปลี่ยนแปลงตัวเองกลายเป็นผู้นำที่น่าเกรงขาม เขาเดินทางกลับไปยังเนซิบพร้อมกับภารกิจลับที่ได้รับมอบหมายจากอามาร์ผู้เป็นบิดา ภารกิจนั้นคือการช่วงชิงเยลโลว์ เบลท์กลับคืนมา ซึ่งจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงอนาคตของทั้งสองอาณาจักรไปตลอดกาล
